ในเมนูอาหารจีนแบบดั้งเดิมหลายชนิด ขนมทอดทรายหวานอบมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณะและรสหวานที่น่ารับประทาน ทำให้มันมีตำแหน่งพิเศษ ไม่เพียงแต่เป็นอาหารอร่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นความทรงจำที่ดีของวัยเด็กของหลายคนเช่นกัน วันนี้ ขอเรามาร่วมเข้าสู่ห้องครัวและเปิดเผยความลับในการทำขนมแบบดั้งเดิมนี้ เพื่อทำซ้ำความหวานนี้ที่บ้านของเราเอง
การเตรียมวัตถุดิบ
- วัตถุดิบสำหรับผงแป้ง: ผงแป้งธรรมดา 300 กรัม, น้ำอุ่น 160 มิลลิลิตร, ยีสต์ 3 กรัม, น้ำตาลทราย 15 กรัม.
- วัตถุดิบสำหรับเนื้อ: น้ำตาลแดง 80 กรัม, ผงแป้งอบ 30 กรัม, งาฬถั่วขาว 20 กรัม, เนื้อถั่วลิสงแป้ง 20 กรัม.
ขั้นตอนการทำ
- ทำแป้ง: ใส่ยีสต์ลงในน้ำอุ่น คนให้เข้ากันอย่างดี ไว้ปล่อย 5 นาที เพื่อให้ยีสต์เติบโตอย่างเต็มที่ ใส่น้ำตาลทรายลงในผงแป้ง ใส่น้ำยีสต์ลงไปพร้อมกัน คนเรื่อย ๆ จนกระทั่งผงแป้งกลายเป็นรูปร่างคล้ายผ้าพันธุ์ แล้วใช้มือที่แรงในการนวด ให้แป้งกลมและมีความแข็งพอเพื่อให้ง่ายต่อการทำในขั้นตอนต่อไป ใส่แป้งที่ทำสำเร็จลงในถ้วย ปิดด้วยพลาสติกหุ้ม และไว้ในที่ที่อบอุ่น เพื่อให้แป้งขยายตัวถึงสองเท่า ขณะที่อุณหภูมิอยู่ในช่วง 25 – 30 องศาเซลเซียส ระยะเวลาการฟื้นแป้งจะใช้ประมาณ 1 – 1.5 ชั่วโมง เมื่อแป้งมีรูปร่างเหมือนโพรงผึ้ง อย่างนั้นหมายความว่าแป้งทำสำเร็จแล้ว.
- ทำเนื้อ: ใส่น้ำตาลแดงลงในถ้วย ใส่ผงแป้งอบ, งาฬถั่วขาว และเนื้อถั่วลิสงแป้งลงไปพร้อมกัน คนให้เข้ากันอย่างดี การใส่ผงแป้งอบจะช่วยดูดน้ำจากน้ำตาลแดงเมื่อถูกอบ ทำให้เนื้อไม่เป็นของเหลวเกินไป ซึ่งจะทำให้ยากในการห่อขนม เนื้อถั่วลิสงแป้งสามารถทำเองได้โดยนำถั่วลิสงอบแล้วปounder ให้เป็นแป้ง เพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่แท้จริง ถ้าไม่มีผงแป้งอบ พร้อมใช้ สามารถนำผงแป้งปกติใส่ลงในกระทะ เต้นไฟน้อย ๆ จนผงแป้งมีสีเหลืองอ่อน ๆ แล้วนำออกจากกระทะและไว้เย็นก่อนใช้.
- จัดรูปแป้ง: เอาแป้งที่ฟื้นแล้วออกมา วางบนโต๊ะทำอาหารที่เคยผงแป้งไว้揉 แป้งเพื่อกระจายอากาศในแป้งให้หมด ทำให้แป้งกลับมาสู่ขนาดเดิม หลังจากที่揉 เส้นแป้งเป็นลำบากแล้ว แบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่มีขนาดเท่ากัน โดยแต่ละชิ้นประมาณ 30 กรัม สร้างแป้งให้กลม และใช้ผีดแป้งในการบดเป็นแผ่นแป้งกลมที่มีความหนา 3 – 4 มิลลิเมตร และมีความหนาในกลางมากกว่าการอบ ๆ ระหว่างการบดแผ่นแป้ง ควรระมัดระวังในการใช้แรงให้สม่ำเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงให้ไม่มีแผ่นแป้งหนา ๆ บาง ๆ.
- ห่อขนม: เอาแผ่นแป้งใบหนึ่ง ใส่เนื้อประมาณ 1 ถ้วยโต๊ะลงไป ห่อแผ่นแป้งให้เป็นรูปครึ่งวงกลม โดยที่มุมข้างนอกต้องถูกยึดให้แน่น แล้วเริ่มจากปลายหนึ่งของรูปครึ่งวงกลม ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ในการยัดทำให้เกิดรูปร่างขอบห่อขนม ขอบห่อขนมควรมีขนาดเท่ากัน และระมัดระวังในการใช้แรงในการยัด เพื่อให้ขอบห่อขนมแน่นและแข็งแรง เพื่อป้องกันเนื้อไม่หลั่งออกระหว่างการอบ ห่อขนมที่ทำสำเร็จวางลงในหม้ออบ โดยแต่ละขนมต้องมีระยะห่างระหว่างกัน เพราะขนมจะขยายตัวระหว่างการอบ.
- ฟื้นแป้งครั้งที่สอง: เอาขนมที่ห่อแล้ววางลงในหม้ออบ ปิดฝา หม้ออบไว้เพื่อให้แป้งฟื้นครั้งที่สองระยะเวลา 15 – 20 นาที การฟื้นแป้งครั้งที่สองจะทำให้ขนมมีความขี้ข่าพอสมควร และมีความอุ่น ๆ ในขณะนี้ อย่าเปิดไฟ แต่ใช้ความอบอุ่นภายในหม้ออบเพื่อให้แป้งฟื้นดี สังเกตดูว่าขนมมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และรู้สึกว่าขนมเบา ๆ เมื่อนำขึ้นด้วยมือ อย่างนั้นหมายความว่าการฟื้นแป้งครั้งที่สองทำสำเร็จแล้ว.
- อบขนม: หลังจากการฟื้นแป้งครั้งที่สองเสร็จแล้ว เปิดไฟใหญ่เพื่อให้น้ำเดือด แล้วเปลี่ยนเป็นไฟกลาง อบขนมเป็นเวลา 15 – 20 นาที ระยะเวลาการอบควรปรับตามขนาดของขนม เพื่อให้แน่ใจว่าขนมอบ熟透 อย่าเปิดฝาหม้ออบอย่างอันตรายระหว่างการอบ เพราะอาจทำให้อากาศควันหลุดออกไป และส่งผลต่อระดับความอบของขนม หลังจากขนมอบสำเร็จ ปิดไฟ และไว้ขนมอยู่ในหม้ออบอีก 3 – 5 นาที ก่อนเปิดฝา เพื่อป้องกันขนมไม่ลดขนาดลงเนื่องจากร้อนรับเย็นกะทันหัน.
คำแนะนำ
- การเลือกผงแป้ง: ผงแป้งธรรมดา (ผงแป้งกลาง) ควรใช้เพราะผงแป้งที่มีความแข็งมากขึ้นจะทำให้ขนมมีความแข็งเกินไป และผงแป้งที่มีความอ่อนมากขึ้นจะทำให้ยากในการห่อขนม.
- การควบคุมอุณหภูมิน้ำ: อุณหภูมิน้ำที่ใช้กับยีสต์ควรอยู่ในช่วง 35 – 40 องศาเซลเซียส เพราะถ้าเย็นเกินไป จะทำให้ยีสต์ไม่ฟื้นได้ และถ้าเป็นร้อนเกินไป จะทำให้ยีสต์ตายไป ทำให้แป้งไม่ฟื้นดี.
- การปรับเนื้อ: ถ้าไม่ชอบเนื้อถั่วลิสงแป้ง สามารถแทนที่ด้วยเนื้อถั่วแก้ว หรือผักผลไม้อื่น ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของรสชาติ ปรับปรุงปริมาณน้ำตาลแดงตามชอบ แต่ไม่ควรใช้น้อยเกินไป เพราะอาจทำให้รสหวานไม่เพียงพอ.
- เทคนิคการอบ: น้ำในหม้ออบควรเติมครบครันเพื่อหลีกเลี่ยงให้ไม่ขาดน้ำระหว่างการอบ หลังจากการอบเสร็จ อย่าลืมไว้ขนมอยู่ในหม้ออบอีกสักครู่ ก่อนเปิดฝา เพื่อให้ขนมมีโอกาสติดรูปร่างได้อย่างดี.
หลังจากที่ขนมทอดทรายหวานอบทำสำเร็จ นำขนมออกมาพร้อมกับควันอุ่น ๆ จากหม้ออบ เอามาทานแล้วรู้สึกความอบอุ่นของแป้งและความหวานของเนื้อในทุกมื้อยก ทำให้คุณถึงเวลาวัยเด็กที่เต็มไปด้วยความสุขได้อย่างรวดเร็ว อย่าลืมลองทำขนมชนิดนี้ที่บ้านของคุณเพื่อให้ความอร่อยแบบดั้งเดิมนี้มีชีวิตใหม่ในครอบครัวของคุณเอง.